เปรียบเทียบโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv รุ่น Pro Vs รุ่นธรรมดา ต่างกันยังไง?

ใครที่ตัดสินใจอยากเลือกซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า ergonomic ไว้ใช้ทำงาน แต่กำลังลังเลระหว่าง Liv Standing Desk รุ่น Pro ตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน และอยากรู้ความแตกต่างกับ Liv Standing Desk รุ่นธรรมดา ว่ามีจุดไหนที่ไม่เหมือนกันบ้าง แล้วควรซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv Desk รุ่นไหนดีที่จะเหมาะสม และตอบโจทย์กับการใช้งานของเรามากที่สุดมาลองเปรียบเทียบดูไปด้วยกัน..
ตารางเปรียบเทียบของโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv รุ่น Pro vs รุ่นธรรมดา

จากราคาด้านบนของ Liv Standing Desk ทั้งสองรุ่น จะเห็นได้ว่าความแตกต่างกันของราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท ถ้าใครคิดว่ามีงบถึงหรือว่าจะซื้อผ่อนบัตรเครดิต ก็สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้ไม่ยากเลยสำหรับทั้งสองรุ่น Liv Desk มีบริการให้เลือกผ่อนได้ตามใจ 0% นานถึง 10 เดือน มีทั้ง ธนาคารกรุงเทพ, กสิกร, กรุงศรี, กรุงศรีเฟิร์สช้อย, KTC
แต่ถ้าอยากรู้ว่าสเปคทั้งสองรุ่นนี้มันแตกต่างกันยังไง แล้วควรจะซื้อรุ่นไหนดีก็ลองลงไปดูข้อมูลความแตกต่างของทั้งสองรุ่นกันก่อนได้เลย..
Look and Design : ดีไซน์ท็อปโต๊ะเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงไหนบ้าง ?

Liv Standing Desk โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า รุ่น Pro
•มอเตอร์คู่แข็งแรง ทนทานกว่าเดิม
การปรับของโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า รุ่น Pro แต่ละครั้งจะนิ่งและเสถียรมากกว่าเดิมด้วย Dual Strong Motor ระบบมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังยกแข็งแรงกว่ามอเตอร์เดียว สามารถช่วยให้เคลื่อนไหวได้สะดวกง่ายขึ้น นิ่งและเงียบสนิทกว่ารุ่นธรรมดา
•ปรับระดับขาโต๊ะได้เพิ่มขึ้นถึง 3 stages
ความสามารถของ Liv Standing Desk Pro คือสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำ ได้มากกว่า ต่ำสุดได้ถึง 62 เซนติเมตร และสูงสุดได้ถึง 128 เซนติเมตร ข้อดีอีกอย่างคือ สามารถปรับหน่วยแสดงผลได้ทั้ง “นิ้วและเซนติเมตร” ตามหลักสรีรศาสตร์หรือ ergonomic ได้อย่างแม่นยำกว่าเดิม ซึ่ง Liv Desk รุ่นธรรมดาจะสามารถเลือกหน่วยแสดงผลเป็นแบบนิ้วได้เท่านั้น
•รับน้ำหนักได้มากขึ้น
จากรุ่นธรรมดาของ Liv Standing Desk จะสามารถรองรับน้ำหนักได้ไม่เกิน 100 กก. แต่โต๊ะปรับระดับไฟฟ้ารุ่น Pro สามารถรองรับน้ำหนักได้ถึง 125 กก. ซึ่งเพิ่มขึ้นมาได้อีกถึง 25 กก. เลยทีเดียว ใครที่ต้องวางของหนัก ๆ หรือใช้พื้นที่บนโต๊ะทำงานเยอะๆ ขอแนะนำว่ารุ่น Pro จะตอบโจทย์กว่าสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่ารุ่นธรรมดา
จุดเด่นของ Liv Standing Desk Pro

Liv Standing Desk โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า รุ่นธรรมดา
·มีขนาดท็อปโต๊ะขนาดเล็กให้เลือก
โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv Standing Desk รุ่นธรรมดา จะมีให้เลือกขนาดท็อปโต๊ะถึง 3 ขนาดคือ S M และ L สำหรับใครที่มีพื้นที่ในบ้านเล็ก หรือมีพื้นที่จำกัด สามารถเลือกขนาด S ไว้ใช้งานได้ แต่รุ่น Liv Standing Desk Pro นั้นจะมีให้เลือกเพียง 2 ขนาดคือไซส์ M และ L
·บันทึกความสูง-ต่ำ ได้ 3 ระดับ
โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv Standing Desk รุ่นธรรมดา จะมีปุ่มให้เราสามารถบันทึกระดับความสูง-ต่ำได้ ถึง 3 ระดับ แต่ Liv Standing Desk Pro จะมีปุ่มให้บันทึกระดับความสูงได้เพียง 2 ระดับเท่านั้น พร้อมมีฟังก์ชั่น Alarm mode ตั้งแจ้งเตือนให้ลุกนั่งระหว่างวันได้
· มีช่องเสียบสาย USB
สำหรับใครที่ต้องการช่องเสียบไว้สำหรับชาร์จแบต โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv Standing Desk รุ่นธรรมดาจะมี USB 3.0 Fast Charge ที่ด้านข้างขวาของแผงคอนโทรลเลอร์ สะดวกสบายต่อการใช้งาน ไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟ สามารถชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ หรือ หูฟังบนโต๊ะทำงานของเราได้เลย
จุดเด่นของ Liv Standing Desk รุ่นธรรมดา

เปรียบเทียบความแตกต่าง Liv Standing Desk Pro และ Liv Standing desk
ปุ่มควบคุม (controller)

Desk Frame

จากการเปรียบเทียบสเปคและภาพรวมต่าง ๆ ของโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv Standing Desk รุ่น Pro และ Liv Standing Desk รุ่นเดิม จะเห็นได้หลัก ๆ เลยว่าแตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นการใช้งาน รูปแบบของปุ่มควบคุม (Controller) โฉมใหม่ของรุ่น Pro มาพร้อมรางเลื่อนเก็บได้ใต้โต๊ะ และรูปแบบขาโต๊ะ (Desk Frame) ที่สามารถปรับได้เพิ่มขึ้นถึง 3 stages ด้วยกัน
อีกหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า คือ “การใช้งานของตัวเราเองเป็นหลัก ว่าชอบดีไซน์ หรือว่าชอบฟังก์ชั่นการใช้งาน” ใครที่กังวลเรื่องการปรับระดับให้พอดีกับสัดส่วน และความแข็งแรง ทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า สามารถเลือกซื้อ Liv Standing Desk รุ่น Pro จะเหมาะกว่า แต่ถ้าใครชอบฟังก์ชั่นการใช้งานเป็นหลัก หรือมีพื้นที่จำกัดภายในห้อง Liv Standing Desk รุ่นธรรมดาก็จะเหมาะสมกว่า
ทุกคนสามารถเริ่มต้นมีสุขภาพที่ดีควบคู่ไปกับการทำงานแบบ Super Productive ได้ ลองเปลี่ยนมาใช้โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า Liv Standing Desk กันดูแล้วจะรู้ว่าแตกต่างยังไง..
อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : อ่านก่อน ลงทุนซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าคุ้มค่ากว่า จริงหรอ ?