8 ข้อควรรู้! ชาร์จแบตยังไงให้ปลอดภัยและใช้งานได้นานขึ้น

การชาร์จแบตเตอรี่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อป เป็นสิ่งที่หลายคนอาจมองข้ามไปหรือไม่ค่อยใส่ใจกันมากนัก แต่การชาร์จที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ตามมาได้ และอาจเกิดอันตรายได้หากไม่รู้วิธีการดูแลอย่างถูกต้อง
ปัญหาแบตหมดเร็วเกิดจากอะไร?
หลายคนคงเคยประสบปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว จนต้องพกพาวเวอร์แบงค์ติดตัวสำหรับชาร์จอุปกรณ์ไปข้างนอกอยู่เสมอ ซึ่งปัญหาแบตเสื่อมเร็วเกิดจากหลายปัจจัยหลัก เช่น การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% หรือปล่อยให้แบตหมดเอง เป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ การใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้พลังงานสูง อย่างเช่น แอปพลิเคชั่นเกม ที่ออกแบบภาพให้มีความละเอียดสูง ต้องประมวลผลเยอะก็ต้องใช้พลังงานมากกว่าการใช้งานปกติทั่วไป ก็สามารถทำให้แบตหมดเร็วได้เช่นกัน เราควรหันมาใส่ใจเรื่องการใช้งานและการชาร์จแบตอย่างระมัดระวังเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาว บทความนี้จะมาแนะนำวิธีชาร์จแบตเตอรี่ให้ปลอดภัยและถนอมแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ให้มีอายุการใช้งานได้นานขึ้น

8 วิธี ชาร์จแบตอย่างปลอดภัยและใช้งานได้นานขึ้น
1. หลีกเลี่ยงการใช้สายชาร์จและอะแดปเตอร์ที่ไม่มีคุณภาพ
ไม่ควรใช้สายชาร์จและอะแดปเตอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือผลิตจากผู้ผลิตที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์ได้ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้อาจไม่มีระบบป้องกันไฟเกินหรือไฟฟ้าลัดวงจร การเลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ได้รับการรับรอง เช่น สายชาร์จที่ผ่านมาตรฐาน MFi (Made for iPhone) สำหรับอุปกรณ์ Apple หรืออุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากผู้ผลิต จะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้
2. หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตในอุณหภูมิที่สูงเกินไป
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ซึ่งใช้ในอุปกรณ์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ไม่เหมาะกับการทำงานในอุณหภูมิที่สูงเกินไป การชาร์จแบตในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ใกล้แหล่งความร้อนสูง หรือชาร์จภายในรถยนต์ที่จอดตากแดดไว้ อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสูงเกินไป ส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น หรืออาจเป็นอันตรายถึงขั้นระเบิดได้
3. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนถึง 0%
การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนถึง 0% แล้วค่อยชาร์จใหม่ จะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีจำนวนรอบการชาร์จที่จำกัด (Charge Cycle) ซึ่งหมายถึงจำนวนครั้งที่แบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 0% ไปจนเต็ม 100% แล้วเริ่มต้นใหม่ การใช้แบตเตอรี่จนหมดเองบ่อยๆ จะเร่งการใช้รอบการชาร์จจนแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร

เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรชาร์จแบตเมื่อระดับพลังงานลดลงมาประมาณ 20-30% และหยุดชาร์จเมื่อแบตเตอรี่ถึงประมาณ 80-90% จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานมากขึ้น และช่วยลดปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว
4. หลีกเลี่ยงการชาร์จแบตข้ามคืน
แม้ว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ ๆ อาจจะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่เต็ม แต่การชาร์จแบตทิ้งไว้ข้ามคืน อาจทำให้อุณหภูมิของแบตเตอรี่สูงขึ้นเรื่อย ๆ และเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพ การปล่อยให้อุปกรณ์ชาร์จต่อเนื่องหลังจากแบตเตอรี่เต็ม อาจทำให้แบตเตอรี่เกิดอาการ “Overcharge” ซึ่งในระยะยาวจะส่งผลต่อความจุของแบตเตอรี่ที่ลดลง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่ระบบตัดไฟอาจไม่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพทุกครั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้อะแดปเตอร์หรือสายชาร์จที่ไม่มีคุณภาพ เพื่อความปลอดภัย ควรถอดสายชาร์จทันทีเมื่อแบตเตอรี่เต็มแล้ว
5. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน
หลายอุปกรณ์มีโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Power Saving Mode ที่ช่วยลดการใช้แบตเตอรี่ในช่วงที่แบตใกล้หมด โหมดนี้ทำงานโดยลดการทำงานของฟังก์ชันที่ไม่จำเป็น เช่น ลดความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ, ปิดการเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็น และลดการประมวลเพื่อประหยัดพลังงาน เวลาที่เราเปิดใช้งานโหมดนี้จะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้นานขึ้น เพื่อเซฟไว้ใช้ในตอนที่จำเป็น และช่วยลดความถี่ในการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งส่งผลดีต่ออายุการใช้งานในระยะยาว

นอกจากนี้ การใช้งานโหมดประหยัดพลังงานยังช่วยลดการเกิดความร้อนสะสมในตัวอุปกรณ์ เพราะระบบจะทำงานเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้น ช่วยให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพช้าลง
6. อย่าใช้โทรศัพท์ในตอนชาร์จแบต
การใช้โทรศัพท์ในขณะชาร์จแบต อาจส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมในตัวอุปกรณ์ ซึ่งความร้อนนี้ไม่ได้เกิดจากกระบวนการชาร์จเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากการทำงานของแอปพลิเคชันหรือฟังก์ชันที่กำลังใช้งาน เช่น การเล่นเกม การดูวิดีโอ หรือการเปิดใช้แอปพลิเคชันในเครื่องมากเกินไป ความร้อนที่สะสมในตัวอุปกรณ์จะส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งการใช้งานอุปกรณ์ในตอนที่ชาร์จแบตยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร หรืออุปกรณ์ระเบิดในกรณีที่แบตเตอรี่มีปัญหา เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองควรหลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์ในตอนที่ชาร์จแบตอยู่ และหากจำเป็นที่ต้องใช้จริง ๆ ควรใช้งานในลักษณะที่ไม่ต้องจับตัวอุปกรณ์โดยตรง เช่น ใช้หูฟังบลูทูธในการรับสายโทรศัพท์แทน
7. ทำความสะอาดพอร์ตชาร์จอย่างสม่ำเสมอ
ปัญหาแบตชาร์จไม่เข้าอาจมีฝุ่นละออง เศษผงฝุ่น หรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ซึ่งอาจทำให้การเชื่อมต่อสายชาร์จไม่แน่นหลวม ชาร์จไฟช้า ส่งผลต่อประสิทธิภาพของรอบการชาร์จไฟแต่ละครั้งช้าลง หรือบางเคสไม่สามารถชาร์จแบตได้เลยก็มี อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้พอร์ตชาร์จเสียหายในระยะยาวได้ ควรใส่ใจเรื่องทำความสะอาดพอร์ตชาร์จเป็นประจำ โดยการใช้แปรงขนาดเล็กหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดเฉพาะทางทำความสะอาด อย่าลืมทำความสะอาดพอร์ตชาร์จเป็นประจำ อย่างน้อยประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง จะช่วยให้ชาร์จแบตได้เร็วขึ้น และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้

8. ตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นประจำ
การตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่ เช่น ความจุสูงสุดที่ลดลง หรือจำนวนรอบการชาร์จ สามารถทำได้ผ่านการตั้งค่าของอุปกรณ์ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะลดลงตามระยะเวลาการใช้งาน การตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นประจำช่วยให้สามารถรับรู้ถึงปัญหาล่วงหน้า เช่น ความจุแบตเตอรี่ที่ลดลงหรือการเสื่อมสภาพที่อาจต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อ สุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health) ลดลงต่ำกว่า 80% เนื่องจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพอาจทำให้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ลดลง สัญญาณเตือนที่ควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ เช่น เครื่องดับเองบ่อยๆ, ชาร์จเต็มเร็วแต่แบตหมดเร็ว, เครื่องทำงานช้าลง เป็นต้น
วิธีตรวจสอบสุขภาพแบตเตอรี่ iPhone ตั้งค่าได้ใน Settings > Battery > Low Power Mode

ส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ หรือ และแล็ปท็อป สามารถตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ได้ผ่านการตั้งค่าของอุปกรณ์ หรือใช้แอปพลิเคชันเสริมที่ออกแบบมาเพื่อตรวจสอบแบตเตอรี่โดยเฉพาะได้ ซึ่งการตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่เป็นประจำ จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ทันเวลาก่อนที่จะเกิดปัญหาในการใช้งานตามมา
การดูแลและใช้งานแบตเตอรี่ให้ปลอดภัยและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากเราใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการชาร์จแบต เช่น การเลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จที่มีคุณภาพ หลีกเลี่ยงการชาร์จในที่ที่มีอุณหภูมิสูง และไม่ปล่อยให้แบตหมดจนถึง 0% สิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยรักษาสภาพของแบตเตอรี่ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้อีกด้วย LIV Portable Laptop Stand | Connect ที่วางโน๊ตบุ๊คมาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่ออุปเสริมที่จำเป็นถึง 9 ช่อง รองรับ Fast Charge PD 3.0 ในตัวสามารถชาร์จไฟให้กับแล็ปท็อป โน๊ตบุ๊ค หรือสมาร์ทโฟน ได้รับรองคุณภาพพร้อมประกันสินค้านาน 1 ปี ติดต่อสั่งซื้อได้เลยตอนนี้ที่ไลน์ @livth (มี@ด้วยนะ)
LIV Tablet Stand | Connect
In stock
LIV 360° Panoramic Laptop Stand | Connect
In stock
LIV Portable Laptop Stand | Connect
In stock