USB Hub คืออะไร มีความสำคัญแค่ไหน ทำไมต้องมี?

ใครเป็นสายทำงานที่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมหลายตัวอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะทำงานตัดต่อวิดีโอ กราฟฟิกดีไซน์เนอร์ เกมเมอร์ หรือพนักงานออฟฟิศ หนึ่งในปัญหาที่หลายคนพบเจอ ก็คือ “พอร์ต USB ที่เชื่อมต่อไม่เพียงพอ” จะเห็นได้ว่าโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ มักถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์บางและเบา ซึ่งเป็นข้อดีในแง่ของการพกพา แต่แลกมากับจำนวนพอร์ต USB ที่ลดลง ทำให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมหลายชิ้นในเวลาเดียวกันกลายเป็นเรื่องยาก การเปลี่ยนสาย ถอดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อบ่อยๆ ไม่เพียงแต่สร้างความยุ่งยากน่ารำคาญใจ แต่ยังเสี่ยงต่อการทำให้พอร์ต USB บนอุปกรณ์หลักเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เลยเป็นเหตุผลที่ USB Hub กลายมาเป็นตัวช่วยที่สำคัญของเรา
ในบทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ USB Hub ว่ามันคืออะไร ทำงานอย่างไร และทำไมถึงเป็นอุปกรณ์ที่ควรมีติดไว้
USB Hub คืออะไร?

USB Hub คืออุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มจำนวนพอร์ต USB บนอุปกรณ์ เช่น โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่อุปกรณ์อื่นๆ ที่มีพอร์ต USB จำกัด โดย USB Hub ทำหน้าที่เหมือนตัวกลางที่ช่วยกระจายสัญญาณจากพอร์ต USB หนึ่งช่องให้กลายเป็นหลายช่อง ทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมได้หลากหลายพร้อมกันได้ทั้งหมด โดยทั่วไป USB Hub จะมีพอร์ตให้เลือกใช้งานตั้งแต่ 3-10 ช่อง หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นและการออกแบบ นอกจากนี้ยังมี USB Hub ที่รองรับมาตรฐาน USB เวอร์ชันใหม่ เช่น USB 3.0 หรือ USB-C ที่มีความเร็วสูง ทำให้การโอนถ่ายข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทำไมถึงต้องมี USB Hub?
1. เพิ่มจำนวนพอร์ตให้พอดีกับการใช้งาน
สำหรับใครที่ใช้โน๊ตบุ๊ค แล็ปท็อป หรือคอมพิวเตอร์ที่มีพอร์ต USB จำกัด การมี USB Hub จะช่วยเพิ่มพอร์ตให้เพียงพอต่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้งานประจำ อย่างเช่น เมาส์, คีย์บอร์ด, แฟลชไดรฟ์ หรือ External Hard Drive ในการต่อกับคอม ถ้าใครไม่ได้ใช้อุปกรณ์แบบไร้สาย หรือ wireless แน่นอนว่าอุปกรณ์เหล่านี้ยังต้องพึ่งพาพอร์ต USB ในการเชื่อมต่ออยู่ ยิ่งถ้าใครต้องการใช้อุปกรณ์หลายตัวพร้อมกัน อาจเสียเวลาที่ต้องถอดเสียบไปมา ทำให้ยุ่งยากกับการใช้งาน การใช้ USB Hub จะช่วยเพิ่มพอร์ตให้มีจำนวนที่เพียงพอกับการใช้งาน ช่วยให้เราสามารถต่ออุปกรณ์ทุกอย่างได้พร้อมกันแบบง่ายๆ ไม่ต้องวุ่นวายกับการสลับอุปกรณ์บ่อยๆ แบบเดิม
2. เชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวพร้อมกันได้
หากต้องทำงานที่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมหลายตัวอย่างสายงานตัดต่อวิดีโอหรือช่างภาพที่ต้องการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์พร้อมกัน การมี USB Hub จะช่วยลดภาระการเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมดนี้ให้ง่ายขึ้น ซึ่ง USB Hub รุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่ได้ออกแบบมาให้มีการรองรับกับพอร์ต USB-C และการใช้งานอุปกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้น หรือมีพอร์ตที่รองรับการชาร์จเร็วสำหรับสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมี USB Hub ที่มาพร้อมฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ช่องเสียบ SD Card หรือ HDMI ซึ่งช่วยขยายการใช้งานอุปกรณ์ของเราให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ราคาแต่ละรุ่นแต่ละแบรนด์จะไม่เท่ากัน สามารถเลือกซื้อได้ตามการใช้งาน
3.พกพาไปไหนมาไหนสะดวก
ส่วนใหญ่ USB Hub มีขนาดไซส์เล็กมินิ น้ำหนักเบา และบางรุ่นมีดีไซน์ที่พับเก็บหรือม้วนสายได้ ถูกออกแบบมาสำหรับการพกพาโดยเฉพาะ สามารถหยิบติดตัวไปใช้งานได้ทุกที่ โดยไม่เปลืองพื้นที่ในกระเป๋า พกพาง่ายหรือจะใช้งานบนโต๊ะควบคู่ไปด้วยก็ได้ USB Hub เป็นตัวขยายพอร์ตสำหรับรองรับการใช้งานที่หลากหลายประเภท เช่น USB-C, USB-A, HDMI, LAN หรือ SD Card Reader แค่มี USB Hub ตัวเดียวก็ตอบโจทย์การใช้งานได้หลายรูปแบบโดยไม่ต้องพกสายหรืออุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ให้พะรุงพะรังอีกต่อไป หลังจากนี้ไม่ว่าจะไปทำงานที่ออฟฟิศ หรือจะออกไปนั่งทำงานชิลๆ ที่คาเฟ่ ก็หยิบออกมาใช้งานได้เลยทันที

4. ลดความเสียหายของพอร์ตหลัก
การเสียบและถอดอุปกรณ์ USB เข้ากับพอร์ตหลักบ่อยๆ อาจทำให้พอร์ตเสื่อมสภาพหรือหลวมเร็วขึ้น เนื่องจากการใช้งานซ้ำๆ ส่งผลให้ขั้วต่อภายในเสื่อมสภาพหรือหลุดเสียหายได้ การใช้ USB Hub จะช่วยให้เสียบอุปกรณ์ทุกชนิดเข้ากับตัว Hub แทนที่จะเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ตหลักโดยตรง USB Hub ทำหน้าที่เหมือน “ตัวกลาง” ที่รับภาระการเชื่อมต่อและการใช้งานหนักแทนพอร์ตหลัก ช่วยลดการเสื่อมสภาพและความเสียหายของพอร์ตหลักได้ เมื่อพอร์ตหลักไม่ต้องรองรับการเสียบใช้งานบ่อยๆ หรือไม่ถูกใช้งานมากเกินไป พอร์ตของอุปกรณ์หลักของเราก็จะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ลดความจำเป็นในการซ่อมหรือเปลี่ยนพอร์ตบนเมนบอร์ด ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายสูงตามมาได้
5. ชาร์จไปด้วยใช้ไปด้วยก็ได้
USB Hub บางรุ่นจะมีพอร์ตที่รองรับการชาร์จไฟหรือ USB Power Delivery (PD) ซึ่งสามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ของเราได้ผ่านตัวกลาง USB Hub ในเวลาเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องเสียบอะแดปเตอร์หลายตัวให้ยุ่งยาก แค่มี USB Hub ตัวเดียวแล้วต่อสายชาร์จเข้ากับอุปกรณ์ก็เพียงพอ แต่อย่าลืมตรวจสอบกำลังไฟ (Watt) ที่รองรับ และเลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Fast Charging) หรือพอร์ต USB PD ที่รองรับการจ่ายไฟได้ด้วยนะ

6. รวมสายไฟที่รกโต๊ะให้เป็นระเบียบ
แทนที่จะต้องเสียบสายแยกอุปกรณ์หลายชิ้นเข้ากับพอร์ต USB ของคอมพิวเตอร์โดยตรง การมี USB Hub จะช่วยรวมการเชื่อมต่อทั้งหมดให้อยู่ในอุปกรณ์เดียว พร้อมทำให้โต๊ะทำงานดูเรียบร้อยและเป็นระเบียบมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องสายที่พันกันยุ่งเหยิง เพราะ USB Hub จะช่วยจัดการสายเชื่อมต่อให้อยู่ในจุดเดียวกัน นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพและโฟกัสกับการทำงานได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาในการจัดการอุปกรณ์บ่อยๆ

Tips: วิธีเลือก USB Hub ที่เหมาะสม
- จำนวนพอร์ต: ตรวจสอบจำนวนอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อ และเลือก USB Hub ที่มีพอร์ตเพียงพอ และเผื่อไว้สำหรับการใช้งานในอนาคต
- ความเร็วในการเชื่อมต่อ:
USB 2.0: เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการความเร็วสูง เช่น เมาส์และคีย์บอร์ด
USB 3.0 หรือ 3.1: เหมาะสำหรับการถ่ายโอนไฟล์ความเร็วสูง เช่น External Hard Drive หรือ SSD - ตรวจสอบการรองรับของอุปกรณ์: ตรวจสอบพอร์ตของอุปกรณ์ บางรุ่นอาจรองรับเฉพาะยี่ห้อหรือรุ่นที่กำหนด หากอุปกรณ์รองรับพอร์ต USB-C เช่น สมาร์ทโฟนหรือโน้ตบุ๊กใหม่ ๆ ควรเลือก USB Hub ที่รองรับการเชื่อมต่อ
- ความปลอดภัย: ดูรีวิวก่อนซื้อเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้ามีการรับประกันและมีความน่าเชื่อถือ เพื่อความปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาว
USB Hub มีให้เลือกหลากหลายแบบหลาย ราคา ก่อนตัดสินใจซื้อ USB Hub อย่าลืมพิจารณาสิ่งอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน หลีกเลี่ยงการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากเกินไป อาจทำให้ USB Hub ทำงานช้าหรือไม่เสถียรได้ และควรเลือก USB Hub ที่มีจำนวนพอร์ตที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง ใครที่กำลังมองหา USB Hub สักตัวไว้ใช้ยาวๆ แนะนำ LIV Portable Laptop Stand | Connect 9 in 1 แท่นวางโน๊ตบุ๊คเกรดพรีเมียม มาพร้อมพอร์ตจำเป็นสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ถึง 9 ช่อง ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาง่าย น้ำหนักเบา แถมรองรับพอร์ตชาร์จเร็ว USB-C PD ติดต่อสั่งซื้อพร้อมรับโปรโมชันพิเศษได้ที่ LINE: @livth (มี@ด้วยนะ)
แท่นวางแท็บเล็ต LIV Tablet Stand | Connect
In stock
แท่นวางโน๊ตบุ๊ค LIV 360° Panoramic Laptop Stand | Connect
In stock
แท่นวางโน๊ตบุ๊คพกพา LIV Portable Laptop Stand | Connect
In stock