แนะนำ วิธีเลือกเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพ นั่งสบายไม่ปวดหลัง

เสียไปเท่าไหร่กันแล้วกับค่ารักษาอาการปวดหลัง ทั้งค่านวด ค่ายา ก็ยังไม่ดีขึ้น สาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพ มาจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตอย่างไม่เหมาะสมของเรา นาน ๆ ไป อาจจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพระยะยาวตามมา ลองเริ่มต้นแก้ปัญหาอาการปวดหลัง หรือโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ด้วยการเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานใหม่เพื่อสุขภาพ และปรับเปลี่ยนอริยาบถระหว่างนั่งทำงาน รีบจัดการปัญหาด่วน ก่อนอาการปวดหลังจะเรื้อรัง แก้ไม่หาย !
เลือกเก้าอี้ทำงานไม่ปวดหลัง แบบไหนดี ?
อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจจากภาพหน้าปกเพียงแค่เห็นว่าดีไซน์สวย หรือว่าเป็นแบรนด์ดัง แต่สิ่งสำคัญที่ควรคิดก่อนตัดสินสินใจว่า เก้าอี้ทำงานแบบไหนเหมาะสมและตอบโจทย์กับเรา คือ ฟังก์ชั่นการใช้งาน, วัสดุ, โครงสร้าง การรองรับน้ำหนักและพนักพิง เป็นหลัก ที่สามารถซัพพอร์ตทั้งช่วงคอ ไหล่ หลัง และแขนได้

เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งาน
•เลือกแบบปรับความสูง-ต่ำได้
เก้าอี้สุขภาพที่ดีจะต้องปรับระดับความสูง-ต่ำของ ทั้งเบาะนั่งและพนักพิงได้ เพราะสรีระสัดส่วน ความสูงของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้น เก้าอี้สุขภาพที่ดีควรปรับระดับความสูงได้อิสระอย่างเหมาะสมได้
•เลือกแบบที่ปรับเอนได้
เก้าอี้สุขภาพที่ดีจะมีฟังก์ชั่นที่สามารถปรับล็อคเอน-นั่ง ได้หลายระดับ สามารถปรับเอนหลังได้เมื่อรู้สึกเมื่อยตัว หรือเวลาต้องการพักผ่อน
•เลือกแบบมีที่พักแขน
เก้าอีสุขภาพควรมีที่วางแขนหรือพักแขนได้เต็มพื้นที่ ซึ่งอาการปวดไหล่ส่วนหนึ่งเกิดจากที่รองแขนไม่พอดี ยิ่งถ้ามีงานที่ต้องพิมพ์งานหรือใช้งานคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การวางตำแหน่งของแขนควรมี support อย่างพอดี อย่าปล่อยให้แขนลอย หรือเวลานั่งแล้วไหล่ยกขึ้น
เลือกวัสดุที่มีคุณภาพ
วิธีเลือกเก้าอี้ทำงานที่ดี ควรเลือกเก้าอี้ที่ผลิตจากวัสดุที่รองรับคุณภาพ มาตรฐาน มีความแข็งแรง ทั้ง โครงสร้าง เบาะรองนั่ง รวมไปจนถึงขาเก้าอี้ ควรเช็คให้ดีก่อนว่า วัสดุมีความแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานระยะยาวไหม ซึ่งเก้าอี้ทำงานที่ผลิตด้วยวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพหรือไม่รองรับสรีระสัดส่วน เวลานั่งไปนาน ๆ อาจเกิดปัญหากดทับกล้ามเนื้อช่วงหลังและเส้นประสาททำให้เกิดอาการปวดเมื่อยได้ง่าย
เลือกโครงสร้างเก้าอี้เหมาะสม
ไม่ว่าจะเลือกเก้าอี้แบบไหน ให้พยายามดูโครงสร้างของเก้าอี้ด้วยเป็นหลัก ซึ่งแต่ละแบรนด์ ก็มีหลายแบบ หลายทรง หลายเกรด แนะนำว่าเลือกรุ่นที่โครงสร้างดูแข็งแรง มั่นคง โดยดูจากรุ่นที่สามารถรองรับน้ำหนักเยอะ ๆ ได้ และเหมาะสมกับรูปร่างของเรา สามารถใช้งานได้แบบยาว ๆ แบบไม่ต้องมานั่งกังวล
เลือกพนักพิงดี เบาะนุ่ม นั่งสบาย
อาการปวดเอว ปวดหลัง อาจจะเกิดจากพนักพิงเก้าอี้ไม่ดี ไม่รองรับตามสรีระ และปัญหาจากการนั่งไม่เต็มเก้าอี้ วิธีเลือกเก้าอี้สุขภาพ ควรเลือกจากพนักพิงหลังที่ดีด้วย สามารปรับองศารับกับการนั่ง และพิงหลังได้แบบสบาย ๆ มีความสมดุลเวลานั่งไปนาน ๆ หลังไม่งอ คอไม่ตก แล้วก็เบาะไม่ยุบ
เลือกเก้าอี้ที่คุ้มค่ากับราคา
ปกติแล้วเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพจะมีเรทราคาที่สูงกว่าเก้าอี้ธรรมดาอยู่แล้ว และมีให้เราเลือกกันเยอะมาก ๆ จนตัดสินใจกันไม่ถูกเลยว่าจะเลือกแบรนด์ไหน รุ่นไหนดี
ซึ่งเก้าอี้แต่ละแบรนด์ หรือแต่ละรุ่นมีหลายทรง และถูกออกแบบมารองรับสรีระร่างกายของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป แนะนำอย่ายึดติดที่เรื่องของราคา หรือแบรนด์ดัง ๆ เป็นหลัก เพราะว่า เก้าอี้ที่ราคาแพงกว่าใช่ว่าจะดี หรือตอบโจทย์การใช้งานกับทุกคน เพียงแค่ตัดสินใจเลือกเก้าอี้ทำงานที่ออกแบบมารองรับสรีระ สัดส่วนของเรา นั่งแล้วรู้สึกพอดีมั่นคง สบายตัว สามารถซัพพอร์ตช่วงหลัง ช่วยให้ทำงานได้นานขึ้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แต่อย่าเพิ่งคิดว่าแค่การเปลี่ยนเก้าอี้ทำงานใหม่จะช่วยให้หายจากอาการปวดหลัง ถ้ายังมีนิสัยการนั่งแบบเดิมอยู่ ๆ ก็อย่าซื้อเด็ดขาด การใช้เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพควบคู่กับ Keep posture ท่าทางการนั่งที่ถูกต้องให้ได้ พร้อมปรับ Mindset พฤติกรรมการนั่งทำงานใหม่ อย่างเช่น ลุกขึ้นยืน เดิน เปลี่ยนท่าทางบ้าง อย่าพยายามนั่งติดเก้าอี้นาน ๆ ถึงจะช่วยแก้ต้นตอของปัญหาอาการ ปวดหลัง หรือโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ได้
เก้าอี้สุขภาพ LIV Horizon Ergonomic Chair
In stock
แขนจับจอ LIV Regular Single Monitor Arm
In stock
โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า LIV Standing Desk รุ่น Pro Gen II
In stock
อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง :
นั่งทำงานแบบหลังไม่ปวด ด้วยเก้าอี้ Liv Ergonomic Chair ดีกว่ายังไง ?