โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าจำเป็น? เช็คลิสต์ 5 ความจำเป็นต้องใช้โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า

โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า ไม่ใช่แค่เฟอร์นิเจอร์หรือโต๊ะธรรมดาทั่วไป แต่เป็นโต๊ะที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นระหว่างทำงานหรือผู้ที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมเป็นประจำ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับเปลี่ยนท่าทางระหว่างนั่งกับยืนได้ง่ายขึ้น ในปัจจุบัน โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ และพบว่าพนักงานที่ใช้โต๊ะปรับระดับนั่ง-ยืนสามารถเพิ่ม productivity ในการทำงานได้จริงถึง 46% เมื่อเทียบกับ พนักงานที่ใช้โต๊ะทำงานทั่วไปธรรมดา (อ้างอิงจากการศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัย Texas A&M โดยได้ทดสอบพนักงานทั้งหมด 167 คนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง ในระยะเวลา 6 เดือน)
เทรนด์โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า
งานวิจัยจาก Global Market Insight คาดว่าตลาดโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 5.2% ไปจนถึงปี 2023 เห็นได้ว่าแนวโน้มความต้องการซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรียกได้ว่าตลาดนี้ผ่านการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากเทรนด์เรื่องของ “สุขภาพ เทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในการทำงาน” จากเดิมที่โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าเคยเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ ปัจจุบันได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มอื่น ๆ ด้วย แล้วโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าต่างจากโต๊ะทั่วไปยังไง..

เป็นมากกว่าโต๊ะธรรมดาทั่วไป
หลายคนคงพอรู้กันอยู่แล้ว… ว่าโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า คือ โต๊ะที่ปรับระดับความสูงได้ แต่ที่จริงแล้วนั้นต้นกำเนิดของโต๊ะปรับระดับได้ถูกดีไซน์รูปแบบออกมาให้รองรับกับสรีระร่างกายเราตามหลักอย่างถูกต้องโดยเฉพาะ จากการตระหนักถึง ปัญหาสุขภาพเวลานั่งทำงานนาน ๆ มุ่งเน้นเรื่องความสะดวกสบาย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างยั่งยืน และให้ดีต่อสุขภาพที่สุด โดยคำนึงถึงสุขภาพของผู้ใช้งานเป็นหลักในระยะยาว พร้อมช่วยลดความเสี่ยงปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการนั่งนาน ๆ เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน และปัญหากระดูกและกล้ามเนื้อ มอบประสบการณ์การใช้งานให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะใช้งานตอนนั่งก็สบาย หรืออยากปรับเปลี่ยนท่าทางในการทำงานง่าย ๆ เพียงแค่ ปรับระดับขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นท่ายืน
- Ergonomic Design: มีดีไซน์ทันสมัย ออกแบบถูกต้องตามหลักสรีศาสตร์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
- Smart Function: สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน บันทึกความสูงไว้ได้หลายระดับ ปรับขึ้นลงอัตโนมัติเพียงกดปุ่มเดียว
- Support Body: ปรับระดับความสูงได้พอดีกับสรีระและความสูง ไม่ว่าจะเป็นคนตัวเล็กไซส์มินิ หรือ คนที่ตัวสูง ให้รองรับกับทุกการใช้งาน
- Boost Productivity: กระตุ้นการเคลื่อนไหวระหว่างวัน เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น เมื่อร่างกายได้ทำงานอยู่ในท่าทางที่ถูกต้องและสบาย
- Health Benefit: ลดความเสี่ยงโรคจากการนั่งทำงานนาน ๆ ป้องกันอาการปวดหลัง ปวดคอ ที่เกิดจากท่าทางการทำงานที่ไม่เหมาะสม
- Move Alert!: ตั้งเวลาแจ้งเตือนให้ตัวเองขยับได้ เมื่อนั่งนาน สลับนั่งกับยืนได้ในทุก ๆ 30 นาที โดยที่ไม่หลุดโฟกัสระหว่างทำงาน
จริง ๆ แล้วโต๊ะปรับระดับไฟฟ้ายังมีข้อดีให้เราเห็นมากมาย ลองสำรวจเพิ่มเติมได้ที่นี่ แต่หลัก ๆ แล้วเราควรพิจารณาถึงเรื่องความจำเป็นที่ต้องการใช้งานกันก่อน มาลองตอบคำถาม 5 ข้อนี้กัน
เช็คลิสต์คำถาม 5 ข้อ ประเมินระดับความจำเป็นที่ควรใช้โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า
1. ต้องใช้ทำงานประเภทไหน?
ควรประเมิน objective ก่อนว่าเราจำเป็นต้องใช้งานโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าจริง ๆ แค่ไหน จากรูปแบบการทำงานของเรา ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เน้นการนั่งตลอดเวลา อย่างเช่น อาชีพ Sales ที่ต้องออกไปพบลูกค้าบ่อย ๆ มีประชุมบ้างประปราย สามารถใช้โต๊ะธรรมดาทั่วไปทำงานก่อนได้ สำหรับใช้ทำงานแค่ในระยะเวลาแค่สั้น ๆ ส่วนใครที่เน้นการทำงานอยู่หน้าจอคอมเป็นหลักอย่างกลุ่มที่ต้อง Work from Home เป็นประจำ พนักงานออฟฟิศ โปรแกรมเมอร์ กราฟิก ที่ต้องนั่งนาน ๆ อยู่ที่โต๊ะทำงาน ความจำเป็นที่ต้องซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าอาจจะมีมากกว่าคนกลุ่มแรก ที่จะช่วยเสริมในเรื่องของการปรับท่านั่งสลับกับยืนระหว่างวันได้
2. ใช้เวลาอยู่โต๊ะคอมเฉลี่ยกี่ชั่วโมงต่อวัน
อย่างแรกที่ต้องประเมินต่อมา คือ ระยะเวลาที่ต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมเป็นเวลานานแค่ไหน ติดต่อกันกี่ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นตอนทำงานหรือเล่นเกม รวมแล้วใช้เวลาเท่าไหร่ ถ้านั่งในระดับเดิมนาน ๆ พอไม่ได้เปลี่ยนท่าทางหรือเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ต้องระวังปัญหาเรื่องของสุขภาพอย่าง อาการปวดหลังเรื้อรัง กระดูกสันหลังเคลื่อนหรือคด มาลองประเมินระดับเสี่ยงเรื่องสุขภาพจากพฤติกรรมการนั่งนานว่าตอนนี้อยู่ในระดับไหนกันแล้ว

- ระดับที่ 1 (น้อยกว่า 1 ชั่วโมงต่อวัน): กลุ่มเสี่ยงน้อย ไม่ค่อยพบปัญหา
- ระดับที่ 2 (1-4 ชั่วโมงต่อวัน): กลุ่มสุ่มเสี่ยง เริ่มมีอาการปวดเมื่อยบ้างบางครั้งจากการนั่งติดต่อกัน
- ระดับที่ 3 (4-6 ชั่วโมงต่อวัน): กลุ่มเฝ้าระวัง มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ จากการนั่งนาน ๆ
- ระดับที่ 4 (มากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน): กลุ่มเสี่ยงปัญหาสุขภาพระยะยาว มีอาการปวดหลังบ่อย ๆ ถึงขั้นเรื้อรัง
ถ้าอยู่ในระดับที่ 1 เลยอาจจะยังอยู่ในระดับที่ไม่ได้ที่มีความจำเป็นที่ต้องใช้โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าเท่าไหร่ ถ้าเทียบกับคนที่อยู่ในระดับ 3-4 ซึ่งเป็นระยะเวลาการนั่งที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรค ถ้ายังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่ง หรือไม่มีเวลาลุกไปเดินพักระหว่างวัน แนะนำว่าควรพิจารณาซื้อโต๊ะปรับระดับไฟฟ้ามาใช้งานจะดีกว่า
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมต่อ: วิจัยเผย! พฤติกรรมนั่งนาน เสี่ยงโรคร้ายเท่ากับสูบบุหรี่
3. โต๊ะเดิมที่ใช้อยู่นั่งพอดีตัวหรืออึดอัด
โต๊ะที่พอดีตัว = ทำงานได้คล่องตัว ไม่อึดอัด หากเริ่มรู้สึกว่าโต๊ะที่ใช้อยู่ตอนนี้ความสูงได้ระดับที่ ไม่พอดีหรือไม่สบายตัว เมื่อใช้เวลานั่งอยู่กับที่นาน ๆ เป็นสิ่งต่อมาที่ต้องประเมิน เช่น เผลอโน้มตัวไปข้างหน้า หลุดโฟกัสจนต้องขยับหาท่าที่นั่งแล้วสบายอยู่บ่อย ๆ ปัญหาเกิดจากความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ที่ไม่สัมพันธ์กับร่างกายหรือสัดส่วนของเรา โดยทั่วไปแล้วโต๊ะมาตรฐานจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 70-75 เซนติเมตร พอเวลานั่งทำงานนาน ๆ เราเลยมีอาการปวดเมื่อย ไม่สบายตัว วิธีเช็คระดับโต๊ะที่ได้ขนาดพอดีกับตัวเราง่าย ๆ ให้เราลองนั่งลงบนเก้าอี้ ซึ่งโต๊ะที่ได้ขนาดพอดีเวลานั่ง หลังจะไม่งอ ไหล่ต้องไม่ยก ข้อศอกอยู่ในระดับเดียวกับโต๊ะ และเท้าทั้งสองข้างควรวางราบกับพื้นได้อย่างสบาย ๆ
โต๊ะปรับระดับไฟฟ้า เป็นทางออกของปัญหาเรื่อง ระดับความสูงของโต๊ะที่ไม่พอดีกับตัว ซึ่งเราสามารถ ปรับจูนระดับความสูงของโต๊ะให้เหมาะสมกับสัดส่วนหรือสรีระของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นตอนนั่งหรือยืนทำงานให้ได้ท่าทางที่สะดวกสบายที่สุด
4. มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ใช้จัดวางโต๊ะ
โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าส่วนใหญ่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ อาจจะต้องกลับไปพิจารณาให้ดี เรื่องการจัดวางและประเมินขนาดของห้องเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมาก เพราะโต๊ะประเภทนี้ต้องอาศัยพื้นที่ในการติดตั้ง และต่อสายไฟต่าง ๆ สำหรับใช้งานในการปรับระดับความสูงและตำแหน่งที่เหมาะสม แต่ถ้ามีพื้นที่ภายในห้องที่ค่อนข้างจำกัด ควรตรวจสอบขนาดของโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าให้แน่ใจก่อนว่า สามารถวางได้ในพื้นที่ที่มีอยู่ โดยไม่รู้สึกอึดอัดเวลาเคลื่อนไหวจนเกินไประหว่างที่ใช้งานจริง
5. ปรับเปลี่ยนท่าทางบ่อยแค่ไหน

ลองคิดดูว่าใน 1 วันเราเปลี่ยนท่านั่งบ่อยแค่ไหน การนั่งในท่าทางที่ผิดไปนาน ๆ อาจทำให้เกิดการบีบอัดในบางจุดของร่างกาย เช่น กระดูกสันหลัง หรือกล้ามเนื้อบางส่วน ทำให้เราเกิดอาการปวดหลัง ปวดคอกันอยู่บ่าย ๆ การมีโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าช่วยให้เราสามารถ ปรับท่าทาง หรือสลับโหมดการทำงานจากการนั่งเป็นการยืน ได้อย่างสะดวกในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่ต้องโฟกัสอยู่ที่หน้าจอเป็นประจำจนลืมออกไปยืดเส้น ยืดสายหรือพักร่างกาย การใช้ตัวช่วยจากฟังก์ชันของโต๊ะปรับระดับไฟฟ้าเป็นส่วนเสริมให้เราไม่ลืมที่จะสลับท่าทางระหว่างวันได้บ่อยขึ้น
ถ้าตอบคำถามได้ทั้งหมด 5 ข้อนี้ ก็พอจะได้ข้อสรุปในใจกันแล้วว่าโต๊ะปรับระดับไฟฟ้า มีความจำเป็นกับเรามากน้อยแค่ไหน 😄 หลัก ๆ อยากให้ดูเรื่องไลฟ์สไตล์การทำงาน ระยะเวลาในการนั่งทำงาน และปัญหาสุขภาพที่มีเป็นหลักก่อน หากอยู่ในระดับที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ และเริ่มมีอาการเมื่อยล้าหรือปวดหลังแล้ว การเลือกใช้โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าจะช่วยให้เราสามารถปรับท่าทางการทำงานได้สะดวกขึ้น LIV โต๊ะปรับระดับไฟฟ้าที่ออกแบบมาอย่างถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ มีให้เลือกถึง 2 รุ่น ทั้งรุ่น Normal และ รุ่น Pro ระดับพรีเมียมแต่ราคาประหยัด ใช้งานได้นานทนทาน พร้อมมีการรับประกันให้ยาวนานถึง 5 ปี ปรึกษาแอดมิน LIV ก่อนตอนนี้ได้ที่ LINE: @livth (มี@ด้วยนะ) 👌🏻